“TCEB เปิดแผนตลาดออนไลน์ปี 57หนุนเอกชนร่วมรุกตลาดไมซ์ทั่วโลก”

สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) ร่วมกับกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชนและVISA ดำเนินกลยุทธ์บุกตลาดผ่านโลกออนไลน์ เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายไมซ์จากทั่วโลก มุ่งพัฒนาเว็บไซต์ศูนย์รวมข้อมูลไมซ์ที่ทันสมัยที่สุด ภาษา จัดเต็ม 7 แคมเปญรุกตลาดทั้งในและนอกประเทศพร้อมสร้างกลไกเอื้อให้เอกชนร่วมทำตลาดดิจิตอลเพื่อประหยัดทุน-เวลาผนึกกำลังสร้างไทยสู่การเป็นจุดหมายปลายทางสำหรับจัดงานไมซ์ระดับภูมิภาคโดยมีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมภาพลักษณ์และศักยภาพของประเทศไทยในฐานะ MICE Destination เพื่อให้นักจัดงานทั่วโลกเกิดความเชื่อถือและมั่นใจที่จะจัดงานในประเทศไทย ตลอดจนการสร้างกระแสและกระตุ้นส่งเสริมการจัดงานในประเทศมากยิ่งขึ้น

นายนพรัตน์ เมธาวีกุลชัย ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ ทีเส็บ เปิดเผยว่า ด้วยความตระหนักถึงความสำคัญและศักยภาพของสื่อออนไลน์ในการส่งเสริมตลาดที่สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายทั่วทุกภูมิภาคได้อย่างกว้างขวาง ให้ได้รับข้อมูลข่าวสารและสร้างแรงบันดาลใจในการเลือกประเทศไทยให้เป็นจุดหมายปลายทางสำหรับการจัดประชุมและงานแสดงสินค้าจากทั่วโลก ทีเส็บจึงได้ริเริ่มจัดทำแผนตลาดออนไลน์ประจำปี 2557 ขึ้นเพื่อส่งเสริมภาพลักษณ์และสร้างการรับรู้ถึงศักยภาพของประเทศไทยสำหรับการจัดงานไมซ์ในตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ

สิ่งที่ ทีเส็บให้ความสำคัญมากในการจัดทำแผนตลาดออนไลน์ปีนี้ คือ จะทำอย่างไรให้เกิดการมีส่วนร่วมของภาคธุรกิจในอุตสาหกรรมไมซ์ ทั้งกลุ่มผู้จัดงานไมซ์ นักเดินทางไมซ์ พันธมิตรทางธุรกิจในต่างประเทศ และผู้ประกอบการภาคเอกชนผ่านกิจกรรมการตลาดออนไลน์ เพื่อสนับสนุนให้เอกชนสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ประหยัดต้นทุนและเวลา ซึ่งจะส่งผลดีต่ออุตสาหกรรมไมซ์ของประเทศโดยรวม และทำให้ประเทศไทยสามารถไปถึงเป้าหมายได้สำเร็จ

รายละเอียดของแผนตลาดออนไลน์ปีนี้ ทีเส็บได้มีการพัฒนาเว็บไซต์ www.businesseventthailand.comให้เป็นศูนย์รวมข้อมูลอุตสาหกรรมไมซ์ที่สมบูรณ์และมีข้อมูลทันสมัยที่สุดให้กับกลุ่มเป้าหมายไมซ์จากทั่วโลก ในเบื้องต้นได้จัดทำเป็น 3 ภาษาหลัก – อังกฤษ ไทย และจีน โดยในปีนี้จะมีการพัฒนาเนื้อหาเพิ่มขึ้น เพื่อรองรับกลุ่มเป้าหมายไมซ์เพิ่มอีก 5 ภาษา คือ ญี่ปุ่น เวียดนาม อินโดนีเซีย เกาหลี และรัสเซียนายนพรัตน์ กล่าวทิ้งท้าย


ความคิดเห็น