หวั่นสังคมไทยดิ่งเหวเกินเยียวยาจากปัญหาการเมืองระอุ ผู้คนแตกแยกเกลียดชัง องค์กรวิชาชีพจากทุกภาคส่วนกว่า 60 กลุ่มร่วมมือก่อตั้งกลไกการมีส่วนร่วมภาคประชาชนในนาม “เครือข่ายเดินหน้าปฏิรูป”ออกคำแถลง “หยุดความรุนแรง –เริ่มเจรจา –เดินหน้าปฏิรูป” พร้อมปูทางสร้างเวทีกลาง-พื้นที่การมีส่วนร่วมเพื่อให้ทุกฝ่ายนำเสนอความคิดเห็นแลกเปลี่ยน รวบรวมประเด็นเกี่ยวกับการปฏิรูปที่เน้นลงมือทำทันทีเตรียมเดินหน้าออกแบบการตั้งคณะทำงานเพื่อการปฏิรูประยะยาวที่มีกลไกกฎหมายรองรับ
เปิดตัว “เครือข่ายเดินหน้าปฏิรูป” หรือ “Reform Now Network” ซึ่งมาจากการรวมพลังทำงานร่วมกันของบุคคลและองค์กรด้านต่างๆ ทั้งด้านวิชาการ ด้านธุรกิจ ด้านชุมชน ด้านการปฏิรูป ด้านการพัฒนาสังคม ฯลฯ จำนวนกว่า 60 องค์กร โดยมีเป้าหมายร่วมกันเพื่อผลักดัน ขับเคลื่อนกระบวนการปฏิรูปประเทศบนวิถีทางประชาธิปไตยให้เกิดผลก้าวหน้าและมีผลสำเร็จอย่างจริงจัง จึงเน้นการปฏิรูปที่จะต้องเริ่มทันที มีกรอบแนวทางและประเด็นที่ชัดเจน ยึดถือหลักการมีส่วนร่วมของภาคประชาชนและทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง และประชาชนทุกคนต้องเป็นเจ้าของการปฏิรูป
ทั้งนี้ เครือข่ายเดินหน้าปฏิรูปได้ออกคำแถลงหัวข้อ “หยุดความรุนแรง เริ่มเจรจา เดินหน้าปฏิรูป”โดยขอร้องให้ทุกฝ่ายหยุดความรุนแรง การยั่วยุ ลดการเผชิญหน้าและการส่งเสริมให้เกิดความเกลียดชังระหว่างประชาชนและผู้มีความเห็นต่างเคารพเจตนารมณ์ของประชาชนกลุ่มที่เรียกร้องสิทธิในการเลือกตั้งก่อนการปฏิรูป และประชาชนที่เรียกร้องให้มีการปฏิรูปการเมืองก่อนการเลือกตั้ง
ส่วนการเจรจา ทางเครือข่ายฯ เชื่อว่า ไม่มีความขัดแย้งใดในโลกที่หาทางออกได้โดยปราศจากการเจรจา ก่อนจะย้ำไม่ว่าการเลือกตั้งจะเดินหน้าไปได้หรือไม่ก็ตาม คู่ความขัดแย้งและทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องจำเป็นต้องเจรจาเกี่ยวกับการปฏิรูป โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กลไก องค์กรที่มาของตัวแทนจากประชาชน เพื่อให้ประชาชนทุกกลุ่มมีส่วนร่วม
เหนืออื่นใด เครือข่ายฯมองว่า จะต้องเดินหน้าปฏิรูปทันที เริ่มจากช่วยกันปกป้องวาระการปฏิรูปประเทศมิให้ถูกลดความสำคัญลงภายใต้บรรยากาศการเผชิญหน้าของฝ่ายต่างๆ และมิให้ปัญหาเชิงโครงสร้างของประเทศถูกซุกไว้ใต้พรมและสูญเสียโอกาสของความตื่นตัวทางการเมืองของประชาชนและความเห็นพ้องร่วมกันเรื่องการปฏิรูปนอกจากนี้เครือข่ายฯ ยังอาสาร่วมสร้าง “เวทีกลาง-พื้นที่การมีส่วนร่วม” เพื่อให้ทุกฝ่ายนำเสนอความคิดเห็นแลกเปลี่ยน เพื่อรวบรวมประเด็นเกี่ยวกับการปฏิรูป โดยไม่รวมศูนย์ รวบอำนาจ
“เราเห็นว่าการเลือกที่จะอยู่ข้างใดแล้วมองไม่เห็นความต้องการของประชาชนอีกข้างหนึ่งนั้นมีข้อจำกัด สิ่งที่จะช่วยแก้ไขปัญหาได้อย่างยั่งยืนคือการเลือกแนวทางที่ทุกฝ่ายยอมรับได้และสามารถแก้ไขปัญหาของประเทศได้จริง”ดร.กิตติพงษ์ กิตยารักษ์อดีตกรรมการคณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติ (คอป.)และปลัดกระทรวงยุติธรรม กล่าว
อนึ่ง ผู้แถลงข่าวการรวมพลังครั้งนี้ มาจากองค์กรที่หลากหลายนอกจากปลัดกระทรวงยุติธรรมแล้ว ยังมี ศ.นพ.รัชตะ รัชตะนาวินประธานที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทยนางปิยะมาน เตชะไพบูลย์ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย นายประพัฒน์ ปัญญาชาติรักษ์ประธานสมัชชาเกษตรกรแห่งชาติ นายวิฑูรย์ เลี่ยนจำรูญมูลนิธิชีววิถี นพ.สมศักดิ์ ชุณหรัศมิ์ เลขาธิการมูลนิธิสาธารณะสุขแห่งชาติ นางสารี อ๋องสมหวัง เลขาธิการมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค ดร.บัณฑูร เศรษฐศิโรตม์ ผู้อำนวยการ สถาบันธรรมรัฐเพื่อการพัฒนาสังคมและสิ่งแวดล้อมและ ศ.ดร.ชัยวัฒน์ สถาอนันต์ อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ นักสันติวิธี เป็นต้น
ผู้สนใจทั่วไปสามารถแสดงความเห็นหรือติดตามการขับเคลื่อนงานของเครือข่ายฯได้ที่อีเมล์rnnthailand@gmail.comหรือwww.facebook.com/RNNThailandและwww.RNNthailand.com#
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น