พาณิชย์เผย 10 อิทธิพลที่มีผลต่อธุรกิจร้านอาหารในสหรัฐฯ ชี้แนวโน้มเบบี้บูม ผู้สูงวัย ฮิสแปนิส เชื้อชาติเอเชียเป็นตัวแปรสำคัญ แนะผู้ผลิตอาหารรักษาคุณภาพ ราคาและภาพลักษณ์ที่ดี
นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงแนวโน้มที่มีอิทธิพลที่มีผลต่อธุรกิจร้านอาหารในสหรัฐฯว่า ธุรกิจภัตตาคาร ร้านอาหารในสหรัฐฯมีจำนวนสูงถึง 980,000 ร้านทั่วประเทศ นับเป็นตลาดแรงงานและจ้างงานกว่า 13 ล้านคน มียอดขาย 632 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ(2555) คาดว่าปีนี้จะเพิ่มขึ้นกว่า 660 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ คิดเป็น 4% ของจีดีพีในสหรัฐฯ ถือเป็นตลาดที่น่าสนใจ
ทั้งนี้ในปี 2557 กรมฯยังดำเนินโครงการครัวไทยสู่โลก และไทยซีเล็คท์(Thai Select) เพื่อส่งเสริมภาพลักษณ์ประเทศไทยด้านศักยภาพอุตสาหกรรมอาหารไทยในตลาดโลก เช่น โครงการประชาสัมพันธ์เครื่องหมายไทยซีเล็คท์ โครงการประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อมวลชนในวงการอาหารสหรัฐอเมริกา , จัดกิจกรรมส่งเสริมอาหารไทยและผลิตภัณฑ์อาหารและอื่น ๆ ระดับพรีเมี่ยมสู่ผู้บริโภคในระดับกลาง-สูง โดยดำเนินการเมืองเป้าหมาย ได้แก่ ลอสแองเจลิส ปารีส ลอนดอน กวางโจวเซี่ยงไฮ้ ไคโร และโฮจิมินห์ โดยจัดเทศกาลเผยแพร่/สาธิตการปรุงอาหารไทยที่ได้รับตราไทยซีเล็คท์ การเจรจาการค้าระหว่างผู้ส่งออกไทยและผู้นำเข้า เป็นต้น
“ผู้ประกอบการ ผู้ผลิตส่งออกไทยจะต้องคำนึงถึงการรักษาคุณภาพ ราคาและภาพลักษณ์ของสินค้าและการบริการที่ดี ซึ่งจะทำให้ครัวไทยสู่ครัวโลกประสบความสำเร็จได้” นางนันทวัลย์ กล่าวและว่า นอกจากนี้กรมฯจะส่งเสริมทักษะและเปิดโอกาสให้นักธุรกิจไทยเห็นลู่ทางในการสร้างธุรกิจในต่างประเทศ โดยจ้างที่ปรึกษาด้านการตลาด และ/หรือกฎหมาย เพื่อการเปิดตลาดและ/หรือดำเนินธุรกิจสินค้าอาหารในตลาดที่มีศักยภาพ ได้แก่ อาเซียน จีน (เซี่ยงไฮ้) อเมริกา (นิวยอร์ก) อินเดีย ตะวันออกกลาง (ดูไบ) ญี่ปุ่น และรัสเซีย
น.ส.ประนิตา เกิดพิกุล ผอ.สำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ นครชิคาโก กล่าวว่า บริษัทวิจัยด้านการตลาดเผยผลวิจัยว่า แนวโน้มที่มีอิทธิพลต่อธุรกิจภัตตาคาร ร้านอาหาร เริ่มจากสภาวะเศรษฐกิจของสหรัฐฯมีการปรับตัวดีขึ้น อัตราการว่างงานมีแนวโน้มลดลง ผู้บริโภคจะจับจ่ายใช้สอยเพิ่มมากขึ้นเมื่อเทียบกับปี 2556 ประกอบกับการประกาศทยอยมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ(คิวอี)นับเป็นสัญญาณบวกให้กับภาวะเศรษฐกิจ , ความแข็งแรงของภาคธุรกิจนี้ มีประเภทร้านหลากหลายให้เลือก ,ราคาวัตถุดิบเนื้อสัตว์แพงขึ้น ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงการใช้วัตถุดิบโปรตีนอย่างอื่นทดแทน
ความหลากหลายของประชากรหลายเชื้อชาติ อัตราการขยายตัวของประชากรเชื้อสายฮิสแปนิสและเชื้อสายเอเชียจะมีจํานวนเพิ่มมากขึ้น เช่น นิยมรับประทานผลไม้เครื่องดื่ม เครื่องเทศและเครื่องปรุง หรือ เมนูอาหารของคนเอเชีย อาหารที่ใช้เครื่องปรุงรส ซอสต่างๆ , การจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภคยุคเบบี้บูมและผู้สูงวัย ที่นิยมจับจ่ายใช้สอยและยังคงนิยมออกไปรับประทานอาหารที่ภัตตาคาร/ร้านอาหาร และจะมีแนวโน้มมากขึ้น
การเปลี่ยนแปลงด้านสิ่งจงใจที่จะดึงดูด(เรียกลูกค้า) ภัตตาคาร ร้านอาหารยังมีความจําเป็นและต้องคิดค้นหาวิธี/กลยุทธ์ต่างๆ ทางการตลาดเพื่อดึงดูดลูกค้าเช่น คูปองส่วนลด การจัดทําส่งเสริมการขายอาหารชุดหรือการส่งสลากชิงโชค ฯลฯ , ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีของโทรศัพท์มือถือ ทำให้ผู้บริโภคสะดวกในการสั่งอาหาร หรือ แสดงความคิดเห็น เล่าประสบการณ์ในการใช้บริการ เป็นต้น
นอกจากนี้จะมีเรื่อง เมนูอาหารเพื่อสุขภาพ อัตราการขยายตัวของกลุ่มชาติพันธ์ที่เพิ่มมากขึ้นทำให้ผู้บริโภคมีความตื่นตัวด้านอาหารเพื่อสุขภาพ รวมทั้งผู้บริโภควัยหนุ่มสาว ความนิยมในอาหารที่ปลอด กลูเตน(Gluten) , การฟื้นตัวของภัตตาคารฯประเภท Fine-Diningเริ่มฟื้นตัวและมีแนวโน้มดีขึ้น สุดท้ายแนวความคิดใหม่ นวัตกรรมของรูปแบบอาหารจะมีมากขึ้น
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น